Food Trails

 

NOIR / cmi - Jazz Interactive Space

วงการอาหารและเครื่องดื่มเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อมาตรการต่างๆ ของประเทศเริ่มผ่อนคลายลง จังหวัดเชียงใหม่เองก็เริ่มคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสอากาศหนาว แสงสียามค่ำคืนเริ่มกลับมาสว่างไสว แม้ไม่มากเท่าเชียงใหม่หลายปีก่อน แต่ก็มากกว่าเชียงใหม่ในช่วงกลางปีที่เงียบสงัด เราเริ่มเห็นการเติบโตของบาร์ค็อกเทลอย่างสนุกสนานในเชียงใหม่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลับไปซบเซาลงเพราะโรคระบาด และดูเหมือนจะเริ่มกลับมาสนุกขึ้นอีกเมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายNOIR คือหนึ่งบาร์เกิดใหม่ที่จะเรียกว่าเป็นน้องใหม่ของวงการเครื่องดื่มก็ไม่น่าใช่ เพราะเป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากการความชอบที่เหมือนกันจึงได้มารวมตัวกันของ แนต - เศรษฐรัฐ มณีเลิศ จาก Howling Why Not ปริ้นซ์ - นโรดม อ่อนศรี จาก Self และ เติร์ก - สิทธานต์ สงวนกุล จาก Alone Together, Thaipioka และ SugarayTeaser:

“หนังฟิล์มนัวร์มันใช้ภาพขาวดำและมันก็มีตรงกลางคือสีเทา ดังนั้นมันจึงไม่ได้ตัดสินว่าอะไรคือผู้ร้าย อะไรคือคนดี มันก็เหมือนสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ มันไม่มีถูกผิด คลากสิกค็อกเทลมันไม่ใช่เรื่องไม่ดี สแตนดาร์ดแจ๊สที่บางคนรู้สึกเบื่อ แต่สำหรับบางคนมันคือสมบัติ เลยรู้สึกว่าคำนี้มันเหมาะสมกับร้านเรา”NOIR จึงไม่ได้มีความหมายอยู่แค่คำว่าสีดำ แต่ชื่อร้านได้แรงบันดาลใจมาจาก “ฟิล์มนัวร์” ที่มืดดำ เป็นภาพยนตร์ที่ใช้แสงและสีขาวดำเป็นหลัก เรื่องราวมักจะสะท้อนให้เห็นถึงด้านมืดในใจมนุษย์ หากแต่ก็ไม่ได้ตัดสินว่าใครดี ใครเลว เพราะทุกๆ คนล้วนมีทั้งความดีและความไม่ดีปะปนกันไป

Trailer 1:
“เราอยากทำให้ที่นี่เป็นเซอร์เคิลดีไซน์ หมายถึง ถ้าดนตรีพูดเรื่องนี้ งานสถาปัตย์ก็จะพูดเรื่องเดียวกัน เพราะนี่เป็นสถาปัตย์ในยุคของนักดนตรีแจ๊สยุคนั้นที่เราชอบ และถ้ามันเป็นคลาสสิก ค็อกเทลมันก็ควรจะเป็นเรื่องเดียวกัน เราอยากให้มันนำเสนอออกไปในสิ่งที่มันเป็นแล้วทุกคนจะสัมผัสได้ในสิ่งที่เรานำเสนอ”เชื่อว่าสิ่งแรกที่ทัชใจทุกคนเมื่อเปิดประตูเข้ามาในร้านคืองานออกแบบ แนตเล่าว่าเป็นสถาปัตยกรรมในยุคหลังสงครามที่ทุกคนต้องการความปลอดภัย แต่ก็ยังต้องการความสุนทรียะทางใจ เป็นสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์ (Brutalist) ที่เน้นโครงสร้างแข็งแรง แต่ก็แฝงไปด้วยจริตบางอย่างที่จะช่วยให้รื่นรมย์ เมื่อประกอบกับดนตรีสแตนดาร์ดแจ๊ส บัลลาดแจ๊ส และเครื่องดื่มคลาสสิกค็อกเทลที่เป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้าน ทำให้ทุกอย่างไปด้วยกันได้อย่างลงตัวและกลมกล่อมTrailer 2:
“เรามี Iconic drink คือเราเอาเครื่องดื่มที่นักดนตรีในยุคนั้นเคยดื่มมาให้ดื่ม Chet Baker ดื่มอะไร เราเอามาให้ดื่ม Frank Sinatra ดื่มอะไร เดี๋ยวเราทำให้ Miles Davis ดื่มแค่ Dewar's 12 ปี กับนม อยากรู้ไหมว่ามันเป็นยังไง เดี๋ยวเราทำให้ดื่ม เราว่าพอมันมีเรื่องราวอยู่ในแก้วแล้วมันสนุก และเราก็จะไปต่อกับมันได้ เราอาจจะไปต่อถึง Salvador Dali ที่เขาชอบดื่มแบบนี้เลยเพ้นท์ภาพแบบนั้น หรือนักกวียุคนั้นชอบดื่มอะไร มันมีเรื่องราวที่ดีอยู่แล้วและเราหยิบมาให้ทุกคนได้ดื่ม มันก็น่าจะตอบโจทย์ความเป็นร้านนี้มากกว่า”


เมื่อมีเครื่องดื่มมากมายที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และแน่นอนว่ารสชาติดีอยู่แล้ว เครื่องดื่มซิกเนเจอร์จึงไม่จำกัดแค่การคิดขึ้นมาใหม่ หากแต่เลือกหยิบเอาสิ่งเก่าที่ดีและกำลังจะหายไปกลับมาเหมือนดนตรีสแตนดาร์ดแจ๊สที่แทบจะหาฟังได้ยากในปัจจุบันScene 1:
Jazz Interactive Space

ความชอบในเรื่องราวเดียวกันกอรปกับจังหวะเวลาที่เหมาะสม โปรเจคต์ร้าน NOIR จึงได้เริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลา 1 ปีเต็มกว่าจะถึงเวลาเปิดตัว เป็นบาร์ค็อกเทลที่เน้นความคลาสสิกตั้งแต่รูปแบบสถาปัตยกรรม ดนตรี สแตนดาร์ดแจ๊สไปจนถึงเครื่องดื่มแบบคลาสสิก

“เราเคยมีคำถามหนึ่งเกิดขึ้นซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดร้านนี้ คือ เชียงใหม่มันต้องมีเด็กที่เรียนแจ๊สเยอะมาก แล้วสุดท้ายเขาไปเล่นที่ไหนกัน เรารู้สึกเสียดายมันเพราะเขาน่าจะพยายามกับสิ่งเหล่านี้มาหลายปี เราเลยอยากทำที่ให้เขาได้เล่นในสิ่งที่เขาตั้งใจทำมา เรารู้สึกว่ามันน่าเสียดายเพราะมันคือความตั้งใจของเขา และเป็นสิ่งที่เขาพยายามมาหลายปี ซึ่งเราควรจะให้คุณค่ากับมัน ส่วนค็อกเทลเราก็ไม่อร่อยกว่าร้านอื่นหรอก แต่เรารู้สึกเสียดายคลาสสิกค็อกเทลเหมือนที่เสียดายสแตนดาร์ดแจ๊ส เพราะคลาสสิกค็อกเทลดีๆ มันก็เริ่มหายไปเหมือนกัน”Scene 2:
จากห้องครัวเก่าเป็นห้องเก็บของ
จากห้องเก็บของเป็นบาร์แจ๊ส

แต่เดิมพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นครัวเก่าของโรงแรม เมื่อเลิกใช้จึงกลายเป็นห้องเก็บของที่แทบจะเรียกว่าห้องเก็บขยะซึ่งไม่มีใครสนใจ หากแต่โครงสร้างเดิมกลับสามารถเล่าเรื่องในแบบที่ NOIR ต้องการได้ พื้นที่ตรงนี้จึงถูกออกแบบใหม่ภายใต้โครงสร้างเดิมที่สวยงามในแบบของมันอยู่แล้ว

“วันแรกที่เปิดประตูเข้ามามันเละเทะมาก แต่ผมเห็นภาพแบบตอนนี้เลย ลายไม้แบบบนผนัง สีของกระเบื้อง ท่อน้ำ มันคือยุคนั้นที่เราชอบ ผมอาจจะโชคดีที่เราเรียนดีไซน์ เราจึงมีเรฟเฟอเรนช์ในการสร้างอะไรสักอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุและผล ผ่านกระบวนการคิดมาเยอะมากๆ ถ้ามีอะไรผิดนิดเดียวเราก็ไม่เอา เราเป็นคนค่อนข้างเรื่องมาก แม้แต่สิ่งที่มองไม่เห็นก็ไม่ยอม เราคิดว่าดีเทลมันเป็นสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง ซึ่งพอเราใส่ใจในดีเทลจริงๆ มันก็จะสื่อสารออกไปถึงลูกค้า คนที่เข้ามาก็จะสัมผัสกับมันได้โดยที่เราไม่ได้บอก พอภาพรวมมันกลมกล่อม เขาก็จะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง”ต่อมาคือเรื่องของดนตรีที่นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ NOIR เพราะความสวยงามของสแตนดาร์ดแจ๊สมันค่อยๆ หายไปตามความนิยมของยุคสมัย จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายหากแจ๊สแบบสแตนดาร์ดหรือบัลลาดจะเป็นเรื่องที่เข้าถึงยากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับเครื่องดื่มแบบคลาสสิกที่เราอาจไม่ทันนึกถึง ความหนักหน่วงแต่งดงามของสปิริต (Spirit) ที่เข้าใจง่าย กลิ่นและรสชาติแบบดั้งเดิม แต่หลายคนอาจมองข้าม ทั้งหมดจึงถูกหยิบมาเล่าใหม่ที่ NOIR“ร้านเราจะนำเสนอสแตนดาร์ดแจ๊ส บัลลาดแจ๊ส ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เหลือน้อยมาก และหาฟังได้ยาก ถ้าอยากจะฟังก็อาจจะต้องไปที่โรงแรม ส่วนเครื่องดื่มก็จะไปทางคลาสสิกค็อกเทลเป็นหลัก ซึ่งมันเป็นเครื่องดื่มที่ถูกคิดค้นขึ้นมานานแล้ว และมันอร่อยด้วย ดังนั้นถ้ามีคนถามว่าซิกเนเจอร์ของเราคืออะไร เราก็จะตอบว่าคลาสสิกค็อกเทล”

End Credits:
แหล่งรวม Looser

คำว่า Looser อาจสร้างความรู้สึกในเชิงลบ แต่แนตบอกกับเราจริงๆ ว่า NOIR คือศูนย์รวมของ Looser ที่บอบช้ำจากการใช้ชีวิตในสังคม แต่กลับช่วยสร้างพลังบางอย่างที่ทำให้เกิดทีมที่ดี“เรารู้สึกว่าพวกเรามีความแปลกแยกหรือโดนอะไรบางอย่างในสังคมทำร้ายมาพอสมควร แล้วเราก็มารวมตัวกันด้วยโมเมนตัมบางอย่าง แต่เป็นเรื่องดีมากที่มันช่วยสร้างพลังบางอย่างที่เราเข้าใจกัน แล้วมันเป็นทีม เราแฮปปี้กับทีมนี้มาก เพราะการร้านเราไม่สามารถไปคนเดียวได้ ยิ่งร้านแบบนี้เราทำเองไม่ได้แน่ๆ เรามีซัพพอร์ตเตอร์ที่ดี มีทีมที่ดี”
แนตยังต้องการสร้างมาตรฐานเรื่องการเห็นคุณค่าของคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานดนตรี ศาสตร์และศิลป์แห่งการสร้างสรรค์เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งงานบริการ ทุกคนทุกหน้าที่ล้วนต้องได้รับการยอมรับและค่าตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อกลไกที่ดีของคุณภาพชีวิตและการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนNOIR ไม่ได้เป็นเพียงบาร์ค็อกเทลที่นำเสนอคลาสสิกค็อกเทลและดนตรีแจ๊สแสตนดาร์ตหรือบัลลาดแจ๊ส แต่เป็นพื้นที่ที่แฝงไปด้วยเรื่องราวมากมายอย่างกลมกล่อม สะท้อนอะไรบางอย่าง และเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรบางอย่างของสังคมอย่างไม่มีการตัดสินถูกผิด เหมือนความหมายของฟิล์มนัวร์


พิกัด: ลานจอดรถของโรงแรมเพชรงาม จ.เชียงใหม่
เปิดให้บริการเวลา  19.00 น. – 23.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)
** ควรสำรองที่นั่งล่วงหน้าเพราะทางร้านมีที่นั่งจำกัด

MAP ✣ TEL : +66649534221

Loading Map...

ฝากความเห็น




x