ซอยโซล SoiSeoul สัมผัสประสบการณ์ของวัฒนธรรมการกินอาหารเกาหลีแท้ กับร้านแบบโพจังมาจาที่แรกในเชียงใหม่ " 잘 먹겠습니다...."
สาวกเกาหลีทั้งหลายที่เคยใฝ่ฝันจะได้นั่งกินอาหารในร้านเต็นท์แบบเกาหลี ที่เรียกว่า "โพจังมาจา (포 장마 차 " วันนี้ความฝันเป็นจริงแล้วที่ ซอยโซล Soi Seoul
" คำว่า 'ซอย' คือ ตรอกซอกซอย ส่วน 'โซล' ก็คือ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ คนที่คิดก็คือพาร์ทเนอร์ชาวเกาหลีนั่นล่ะครับ" คุณโอม - ยศวัจน์ วาณิชย์ชัย หนึ่งในหุ้นส่วนร้านเริ่มต้นเล่าถึงจุดเริ่มต้นของโพจังมาจาสีส้มหลังนี้
"ผมทำโครงการชื่อ MORE Space กับทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทำโซนแรกเป็นโซนของร้านอาหารทั้งหมด อย่างที่เห็นครับ ทีนี้เรื่องของ 'ซอยโซล' เกิดจากรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งเขามีไอเดียเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะร้านเต็นท์แบบนี้มันเคยมีที่กรุงเทพฯ ที่เขาทำแล้วประสบความสำเร็จ รุ่นน้องคนนี้ก็ส่งคลิปมาให้ผมดู ผมก็คิดว่า เออ มันน่าสนใจดี เลยคิดว่างั้นลองฟอร์มทีมดู เรียกทีมรุ่นน้องแล้วไปคุยกับคนที่เป็นเจ้าของไอเดียว่าเราจะเริ่มกันอย่างนี้ แล้วผมก็เอาที่ใน MORE Space แบ่งให้เขาเริ่ม ซอยโซลก็เลยเริ่มจากตรงนั้นก่อนครับ"
SoiSeoul สาขา MORE Space
แค่เห็นร้านเต็นท์สีส้มแบบเกาหลีก็ดึงดูดให้ติ่งเกาหลีต้องเดินเข้าไปสั่งต็อกโบกีสักหม้อ แล้วปีดมื้ออาหารด้วยการสั่งข้าวผัดมาผัดคลุกกับซอสที่เหลือในหม้อตามแบบวัฒนธรรมการกินของเกาหลีกันสักหน่อย ซึ่งที่ซอลโซลก็มีทั้งหมดที่ต้องการ ตั้งแต่อาหารเกาหลีที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากเกาหลี ทำโดยแม่ครัวชาวเกาหลี
อาหารของที่นี่จึงเป็น Korean Soul Food รสชาติแบบเกาหลีแท้ อีกทั้งยังมีรูปแบบและรายละเอียดของการตกแต่งร้านแบบเกาลี้ เกาหลี หากมาที่นี่จึงได้ครบ ทั้งอาหารรสชาติเกาหลีแท้ และประสบการณ์ของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบชาวเกาหลีจริงๆ
"ซอมี' คือแม่ครัวชาวเกาหลี ซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ และเป็นหัวเรือใหญ่เรื่องเมนูอาหารของซอยโซล เป็นผู้ลงมือทำอาหารและปรุงรสทุกเมนูเพื่อให้ได้รสชาติที่เป็นเกาหลีแท้ อีกทั้งยังเป็นคนเติมเต็มรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ภายในร้าน เพื่อให้บรรยากาศเป็นแบบเกาหลีที่สุด
"ผมเคยถามซอมีว่า มีร้านอาหารเกาหลีในเชียงใหม่ให้ผมไปลองกินดูไหม เขาบอก ไม่มี จนกระทั่งวันหนึ่งซอมีได้ไปทำอาหารให้ผมกินแล้วผมรู้สึกว่ามันอร่อยมาก ก็เลยอาจจะเป็นโชคชะตามั้งครับ ตอนที่คุยกันเรื่องไอเดียนี้ผมก็นึกถึงซอมีคนแรกด้วยความที่ร้านเราน่าจะเป็นเจ้าแรกในเชียงใหม่ แล้วสิ่งหนึ่งที่มันเลียนแบบลำบากก็คือความเป็นเกาหลีเพราะว่าแม่ครัวของเราเป็นคนเกาหลีแท้ อีกทั้งกระทะ ถ้วยชาม กาน้ำ แม้กระทั่งที่ห้อยทิชชู่ เกาหลีเป็นแบบไหน เราทำแบบนั้นเลย ส่วนวัตถุดิบก็มาจากเกาหลีทั้งหมด กิมจิก็ทำเอง ซึ่งผมเองก็ไม่รู้หรอกครับ ซอมีเขาเป็นคนลงดีเทลทั้งหมด ตรงนี้มันเป็นส่วนที่เวลาคนมาทานแล้ว นอกจากรสชาติ มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ด้วย"
ซอยโซลเสิร์ฟอาหารเกาหลี 4 เมนูหลัก ได้แก่
Korean Hot Pot ฮอตพ็อตกิมจิหมู คล้ายแกงกิมจิ แต่รสเผ็ดกว่า
Korean BBQ Pork with Kimchi บาร์บีคิวหมูคู่กิมจิ ที่มีหมูสามชั้นวางเรียงอยู่บนกระทะพร้อมกับกิมจิและเครื่องปรุงต่างๆ
TTEOKBOKKI ต็อกโบกี รสชาติเผ็ดจัดแบบเกาหลีแท้ๆ
JJUKKUMI ปลาหมึกผัดซอสเผ็ด รสชาติเผ็ดร้อน
มีไซส์ S M L ให้เลือกสั่งตามจำนวนสมาชิกที่ร่วมโต๊ะ และยังมี Topping เป็นพวกเนื้อสัตว์ ผัก กิมจิ ต็อก รามอน หรือข้าวสวย ที่สามารถสั่งเพิ่มได้หากต้องการ หากกินแบบฉบับเกาหลีต้องมีการสั่งข้าวมาผัดกับซอสที่เหลือในหม้อปิดท้าย ซึ่งทางร้านก็จะมีบริการผัดให้
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจานเดียวให้บริการ ได้แก่ กุ้งดอง บะหมี่เย็นซอสเผ็ด (BIBIMMYUN) จาปากูรี (JA PAGURI) และจะมีเมนูใหม่ๆ ออกมาให้ลิ้มลองในทุกๆ 3 เดือน
ซอยโซลสาขาแรกที่โครงการ MORE Space ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า มีวัยรุ่นทั้งที่เป็นติ่งเกาหลีและ ที่อยากลองอาหารเกาหลีแวะเวียนไปใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย จากนั้นก็ถึงเวลาของสาขา 2 ที่ TheOffice+ ซึ่งถือว่าเปิดในช่วงที่โควิด 19 ยังคงระบาด แต่ก็กลับได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นกัน
"สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จาก MORE Space ก็คือ เราเห็นเลยว่าร้านมันจะอยู่ได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับคาแรกเตอร์ของร้าน เพราะอย่างร้านค้าใน MORE Space ก็ยังขายดีอยู่ แต้ร้านที่เขาไม่มีจุดขายหรือไม่มีเอกลักษณ์ เดี๋ยวเขาก็ต้องปิดไป ดังนั้นร้านมันต้องมีคาแรกเกตอร์ อย่างซอยโซลเปิดตอนโควิดรอบ 2 ก็ขายดีมาก ถ้าไม่จองไม่มีที่นั่ง อย่างสาขานี้ก็เปิดตอนโควิดเต็มๆ เลย มันก็อยู่ได้"เป้าหมายของซอยโซลไมใช่แค่การเสิร์ฟอาหารเกาหลีรสชาติเกาหลีแท้ให้กับชาวเชียงใหม่ หากแต่ได้วาง Position ของตัวเองเอาไว้ว่า "หากนึกถึงอาหารเกาหลี ต้องนึกถึงซอยโซล" จึงมีแผนที่จะขยายสาขาไปอยู่ในทุกหัวมุมเมืองภายในปีหน้า รวมถึงอาจจะมีการขยายสาขาไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย
"ประมาณต้นเดือนกันยายนเราจะไปเปิดที่รวมโชค พลาซา เป็นสาขาที่ 3 ครับ ที่เราคิดเอาไว้ก็คือ ในเชียงใหม่น่าจะมีประมาณ 5 สาขา เชียงราย 3 ลำปาง 1 ลำพูน 1 เก็บรอบๆ นี้ก่อน ภายใน 1 ปีกว่าๆ นี้น่าจะมีประมาณ 10-15 สาขา แต่เราก็ต้องดูกำลังซื้อด้วยว่พอมันหารออกมาแล้วมันคุ้มที่จะมีหลายสาขาไหม ถ้ามี 5 สาขาแล้วกำไรยังไม่ตก เราอาจจะมี 6 7 8 ต่อไป แต่คิดว่า 5 น่าจะอยู่แล้วครับ"
ระหว่างที่เรานั่งคุยกับคุณโอม เราก็สังเกตเห็นว่ามีลูกค้าทยอยเดินเข้าร้านกันอย่างไม่ขาดสาย จนต้องกางโต๊ะเสริมเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นเป้าหมายของการเป็นร้านอาหารเกาหลีในดวงใจจึงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก และการขยายสาขาไปยังมุมเมืองของเชียงใหม่จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้บริโภค
ร้านเราก็เริ่มต้นด้วยแค่นี้แหละครับ เริ่มต้นจากที่เราเห็นช่องทาง ผมไม่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเลย แต่ผมคิดว่าถ้าผมมีพาร์ทเนอร์ดีๆ ผมมองว่ามันก็เป็นโอกาสครับ และแรงบันดาลใจสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมมีลูกสาวที่บ้าหนังเกาหลีมาก"
อย่างที่คุณโอมบอก... ซอยโซลไม่ได้มีแค่อาหารเกาหลีรสชาติเกาหลีแท้ หากแต่ยังเป็นประสบการณ์ของวัฒนธรรมการกินอาหารเกาหลีที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง
ร้านซอยโซล สาขา The Office+
เปิดทุกวัน : 16.00 น. - 22.00 น.
พิกัด : โครงการ The Office+ ตรงข้ามโลตัสหางดง