Trends & Lifestyle

 

เวสป้าอินปารีส "เวสป้าพาเที่ยว 15 ที่ กิน ดิ่ม เที่ยว และ เรื่องควรรู้ก่อนไปเที่ยวปารีส"

เวสป้าอินปารีส   เวสป้าพาเที่ยว  15 ที่ กิน ดิ่ม เที่ยว และ เรื่องควรรู้ก่อนไปเที่ยวปารีส เราได้มีโอกาสไปเที่ยวยุโรปเมืองปารีสประเทศ ฝรั่งเศสเลยไม่พลาดที่จะนำเรื่องราวดีๆมาฝาก

ปารีสถือเป็นเมืองแห่งแฟชั่น ศิลปะ และ พิพิธภัณฑ์ เพราะแบรนด์ชั้นนำหลายแบรนด์ก็มีจุดกำเนิดจากที่นี่  Louis Vuitton  (Yves Saint Laurent)   อีฟส์ แซ็งต์ ลอร็องต์ และอีกมากมายแต่ที่ทำให้เมืองนี้มีสีสันคงเป็นเรื่องผู้คนที่แต่งตัวไม่มีใครยอมอย่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง  การเดินทางก็ใช้ ทั้งการเดินเท้า  หรือ จักรยาน แม้กระทั้ง สองล้ออย่าง มอเตอร์ไซด์เพราะเมืองไม่ได้ใหญ่มาก เราเลยไม่พลาดที่จะใช้เจ้าเวสป้าสกูตเตอร์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ ทำให้ทริปนี้ง่ายมากขึ้นเพราะเราสามารถเดินทางจากจุดหนึ่ง ไปยังจุดหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ให้จินตนาการเหมือนเชียงใหม่ เมืองเล็กๆถ้ามีมอเตอร์ไซด์เท่ๆปราดเปรียวสักคันคุณก็สามาถไปเที่ยวได้หลายจุดในวันเดียว เราเลยสรุปมาเป็นข้อๆสั้นๆ 15 ที่เที่ยวและ เรื่องควรรู้เมื่อไปเที่ยวปารีส 

1 .ตลาด Marché Des Enfants Rouges เคยถูกใช้เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า หลังจากนั้นก็ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นตลาดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี ตลาดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงปารีส ห้อมล้อมไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่พร้อมใจกันมาเปิดแผงขายอาหารมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่นหรืออาหารประจำชาติอื่นๆ แต่ละแผงขายอาหารจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่อคิวกันอยู่ อาหารที่นี่ราคาไม่แพง คุณจึงสามารถลิ้มลองอาหารได้หลากหลาย นอกจากอาหารฝรั่งเศสจากหลายๆแคว้นแล้ว ยังมีอาหารท้องถิ่นจากประเทศโมรอคโค เลบานอน และตุรกีอีกด้วยตลาดนัดของวินเทจ เป็นตลาดที่หมุนเวียนไปตามจุดต่างๆ และราคาไม่แพงจนเกินไปของที่ขายก็มาจากพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางจากหลายแหล่ง ทั้งคนที่ปารีสเอง หรือ แม้กระทั้งมาจากลอนดอน เพื่อมาขายของ เพราะการเดินทาไม่ได้ไกลกันมาก แวะเดินดูได้ใช้เวลาไม่นานมากเท่าไหร่ก็ต้องไปยังที่อื่นต่อ เพราะยังมีหมุดหมายอีกมากรอเราอยู่ 

ที่อยู่: 39 Rue de Bretagne, 75003 Paris

การเดินทาง: เมโทรสถานี Filles du Calvaire (สาย 8)

เวลาทำการ: วันอังคารถึงวันเสาร์ 08:30-19:30 / วันอาทิตย์ 08:30-14:00


2.ประตูชัยฝรั่งเศส(Arc de Triomphe หรือเรียกเต็มๆว่า Arc de triomphe de l’Etoile อ่านว่า อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล) เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง มีอายุกว่า 200 ปีสร้างขึ้นปีพ.ศ. 2349  การแกะสลักยุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศส รูปร่างกายกำยำเต็มไปด้วยเครา ใส่ชุดเกราะแสดงถึงความห้าวหาญ น่ายกยงย่องกาลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน รูปแกะสลักลอยตัวที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ การปลุกใจ รวมทั้งสดุดีการเสียสละแก่วีรชนทหารกล้าที่ทำเพื่อประเทศฝรั่งเศส ต่อมาถูกตั้งให้เป็นอนุสรณ์ของทหารฝรั่งเศสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามที่ทำเพื่อประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย


3.อาหาร Chatier  อาหารยอดนิยมของที่นี่ส่วนใหญ่คือ จะเป็นพวกหอยทาก หรือ หอยทากอบเนย (Escargots au beurre persillé) เมนูเรียกน้ำย่อยสุดคลาสสิกของฝรั่งเศส นอกจากนั้นยังมีใส่เนยเอสคาโกเพิ่มกลิ่นหอม เมื่ออบสุกเนื้อหอยจะนุ่มหนึบ ได้กลิ่นหอมของกระเทียมและพาร์สลีย์โดยเสิร์ฟมาในถาดกลมที่มีหลุมส่วนเนยที่อยู่ด้านในเปลือกหอย
นำมาทาขนมปังก็อร่อยเด็ดมาก และ  ร้านที่อยากแนะนำคือ chatier เป็นร้านที่คนท้องถิ่นแนะนำและราคาไม่แพงแต่อาจจะต้องต่อคิวรอสักระยะ


4.cafe hopping partisan  และ bomie cafe newway or italian เป็นคำถามที่แปลกใจนิดหน่อยตอนสั่งกาแฟแต่ก็พอเข้าใจได้ ว่าเป็น แบบเข้มคือ อิตาลี และ newway คือ แบบอ่อนร้านคาเฟ่ และ bar ล้วนแล้วคือที่เดียวกันวัฒนธรรมนั่งชิล์ด้านหน้าร้านกาแฟทั้งดื่มไวน์ เบียร์ หรือ กาแฟ ราคาตก 3 eur หรือ 120 บาท อเมริกาโน ร้านอยากแนะนำ partisan  และ  noir cafe เพราะเป็นร้านที่คนท้องถิ่นไปตลอดเราสามารถเจอคนเดิมๆ มาที่ร้านนี้ได้ทุกวัน และ partisan ยังเป็นโรงคั่วอีกด้วย ครัวซองต์ จุดกำเนิดของครัวซองต์ที่มาปารีสต้องไม่ลืมที่จะทานพวก เบเกอรี่ ร้านที่อยากแนะนำ bo mie   เช้าๆคนเริ่มต่อคิวกันยาวมาก


5.แฟชั่น และ จักรยาน แฟชั่นของผู้คนที่นี่จะเป็นสีสันของเมืองทั้งแฟชั้นเรื่องจักยาน และ การใช้ชีวิตประจำวันการใช้รถทั้ง  รถยนต์  จักรยาน และ มอเตอรไซด์จะขี่เลนส์ขวามือ พวงมาลัยซ้าย และขี่รถในต่างประเทศควรทำใบขับขี่สากล และจะใช้เป็นโซนเช่น ยุโรป เอเชีย จะเสียเงิน เพิ่มครั้งละ 500 และการทำใบขับขี่สากลก็ไม่นานมากใช้เวลาทำการไม่นาน สองวันก็ได้ทันที ค่าเช่ารถ vespa ตกวันละ 60 eur  หรือ  2400 บาท  แต่ประกัน ความเสียหาย 60000 บาท หรือ 1500 euro น้ำมันที่นั้นตกลิตรละ 85  บาท


6.แวะถ่ายรูปกับสัญลักษณ์  Louis Vuitton x Yayoi Kusama เปลี่ยนตึกหลุยส์ วิตตอง ปารีส เป็นประติมากรรมรูปเหมือนเจ้าแม่ลายจุด ยาโยอิอาคารสไตล์อาร์ตเดโคของ หลุยส์ วิตตอง สาขาช็องเซลีเซ (Champs-Élysées) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ด้วยการจัดดิสเพลย์แบบเล่นใหญ่เพื่อเปิดตัวคอลเลคชันใหม่ Louis Vuitton x Yayoi Kusama กับการตกแต่งอาคารด้านนอกด้วยประติมากรรมรูปเหมือนขนาดมหึมาของ ยาโยอิ  คุซามะ  ศิลปินหญิงชาวญี่ปุ่นวัย 94 ปี ผู้โด่งดังกับฉายาเจ้าแม่ลายจุดและเอกลักษณ์วิกผมหน้าม้าสี   และพอเป็นแหล่งช้อปก็เป็นแหล่งทำมาหากินของพวกมิจฉาชีพเช่นกันควรเก็บกระเป๋ารัดกุม และ ไม่หิ้วของแบรนด์จะปลอดภัยที่สุด


7.แม่น้ำแซนและสะพานเก่าแก่ แม่น้ำ Seine สะพานข้ามแม่น้ำสวยๆของกรุงปารีสไม่ใช่แค่ทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ยังมอบวิวที่สวยงาม น่าประทับใจและจะทำให้คุณคิดถึงปารีสเลยจริงๆแล้วมีด้วยกันถึงห้าสะพานแต่สะพานที่เก่าแก่ที่สุดคือ Pont Neuf เป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส   และริมแม่น้ำแซนเรายังได้พบกับกิจกรรมมากมายของผู้คนขณะที่เราขี่เวสป้าข้ามสะพานและผลัดกันถ่ายวิวริมแม่น้ำ


8.อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส Notre Dame แปลว่า แม่พระ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2019 เกิดเหตุเพลิงไหม้อาสนวิหาร สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยไฟได้โหมไหม้ตรงด้านบนของอาสนวิหาร (สาเหตุเพลิงไหม้ คาดว่าเกิดมาจากการบูรณะวิหารตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 จนถึงปัจจุบัน


9.จัตุรัส ปลาส ว็องโดม เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส จัตุรัส ปลาส ว็องโดม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสวนจาร์คแด็ง เดอ ตุยเลอรีส์ (Jardin de Tuilleries) จัตุรัสแห่งนี้ถูกกล่าวขวัญว่าเป็นย่านที่หรูหราและแพงที่สุดในโลก เนื่องจากชื่อบรรดาร้านจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์เนมหรูออกแบบเครื่องประดับจากอัญมณีที่มีค่าที่สุดจากทุกแหล่งของโลกนั้นชุมนุมกันอยู่ที่นี่ ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่มีชื่อเสียงมากๆ มาเป็นเวลานานอย่าง Hotel Ritz Paris ตรงกลางจัตุรัสมีเสาทองแดงอนุสรณ์ว็อง โดม ตั้งอยู่ โดยจักรพรรดินโปเลียนทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1927 โดยสร้างเสาเทราเจิลเลียนเลียนแบบกรุงโรม เสามีความสูง 44 เมตร หล่อด้วยปืนใหญ่ที่กองทัพฝรั่งเศสได้รับในสงครามออสเตรีย ลวดลายเกลียวด้านบนแสดงให้เห็นถึงฉากต่างๆ ของการต่อสู้ และมีรูปปั้นทองแดงของจักรพรรดินโปเลียนตั้งอยู่ด้านบน


10.หอไอเฟล หอไอเฟล เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็ก ที่มีความสูงสง่าถึง 212 เมตร ไม่รวมเสาอากาศอีก 24 เมตร มีลิฟต์ 2 ตัว และบันได 4 ด้าน รวมทั้งภัตตาคารและหอชมวิว 3 ชั้น ซึ่งสามารถมองเห็นฝั่งแม่น้ำเเซนได้ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel) สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแนวคิดในการออกแบบ ด้วยโครงสร้างโลหะ โดยได้ 2 วิศวกร เวอร์ริส คล็อกลิน และ เอมิล นูลจิเย เป็นผู้เริ่มแนวคิดในการสร้างหอคอยสูง 300 เมตร สำหรับงานแสดงสินค้า ซึ่งใช้เวลา 2 ปี 2 เดือน 5 วัน ได้มีการทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2432 โดยที่ทุกคนต่างทึ่งกับหอคอยที่ตั้งอยู่ตรงหน้า จนไม่สามารถท้วงติงอะไรได้อีกเลย และกุสตาฟ ไอเฟล เป็นคนแรกที่เดินขึ้นบันไดจำนวน 1,710 ขั้น เพื่อขึ้นไปที่จุดสูงสุดของหอคอย แล้วแขวนธงชาติ 3 สีของฝรั่งเศส เมื่อมีการเปิดงานแสดงสินค้าในปี 1889 ในกรุงปารีส ซึ่งมีผลงานชิ้นเอก คือ หอคอยสูงที่สุดและงดงามที่สุด ทำให้ผู้คนได้รู้จักกับ ” หอไอเฟล ”


11 .หากจะพูดถึงประเทศฝรั่งเศส อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ต้องนึกถึงเป็นลำดับต้น ๆ เห็นจะเป็นที่นี่เลย พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) แหล่งรวมงานศิลปะกว่า 30,000 ชิ้นที่มีทั้งเรื่องราวอันน่าสนใจ และเต็มไปด้วยความสวยงามของแต่ละยุคสมัย ไม่เพียงเท่านั้น สถานที่แห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นฉากสำคัญของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “The Da vinci Code รหัสลับระทึกโลก” ที่นำแสดงโดย Tom Hanks ในส่วนของตัวพีระมิดแก้ว สิ่งปลูกสร้างที่ถูกเพิ่มเติมในภายหลัง อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของโถงทางเข้า เป็นผลงานของสถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายจีน “I.M. Pei” เผยโฉมครั้งแรกเมื่อปี 1988 ซึ่งตอนแรกก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดูทันสมัยเกินไป แต่ท้ายที่สุดจุดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของปารีสเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างแรกที่ทำให้เรานึกถึงพิพิธภัณฑ์นี้ นั่นก็คือตัว พีระมิดแก้ว นั่นเองเปิด  9:00-18:00 น. และปิดทำการ:วันอังคาร 


12.ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม (Centre Georges Pompidou)  ถูกจัดสร้างขึ้นตามความตั้งใจของประธานาธิบดี Georges Pompidou ที่ต้องการให้ปารีสมีจุดศูนย์กลางของวัฒนธรรม Centre georges pompidou ฝรั่งเศสมักจะเรียกว่า Beaubourg นับเป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์ศิลปะที่รวบรวมทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธพัณฑ์ ห้องสมุด ฮอลล์เพื่อจัดการแสดงดนตรี ร้านขายของ จนถึงภาพยนตร์ จึงทำให้ Centre georges pompidou มีศิลปะจากหลายยุคหลายสมัยที่มาผลัดเปลี่ยนมาจัดแสดงตลอดปี Centre georges pompidou นับเป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงตามแบบ Avant-Garde โดยมีคอนเซ็ปต์ว่า inside Out ที่ออกแบบให้ในตัวอาคารเองมีเนื้อที่ใช้สอยแบบโล่ง แต่นำสาธารณูปโภคทั้งหมดภายในอาคารไม่ว่าจะเป็น บันไดเลือน ลิฟต์ ท่อน้ำ สายไฟ ช่องระบายอากาศฯลฯ ออกมาเปลือยอยู่ภายนอกอาคารทั้งหมด แล้วนำแม่สีอย่างแดง เหลือง น้ำเงิน มาทาอยู่ภายนอกสามารถสร้างความโด่ดเด่นให้กับตัวอาคารราวกับเป็นผลงานศิลปะอันล้ำค่า


13.พิพิธภัณ์ดอร์เซ่ (Musée D’orsay) เดิมเป็นสถานีรถไฟเก่า นั่นคือสถานีดอร์เซ่ (gare d’Orsay) หลังจากนั้นได้มีการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ จุดประสงค์เพื่อจัดการแสดงศิลปะในระหว่างปีคริสตศักราช 1848 -1914 ก่อนหน้าที่สถานีดอร์เซ่ จะถูกนำมาปรับปรุงเพื่อให้เป็นพิพิธภัณ์ฑ์ นักเขียนและจิตกรนามว่า เอดัวร์ เดอไตล์ ( Edouard Detaille) ได้กล่าวไว้ว่า ” ถ้าได้นำมาปรับปรุง ที่นี่จะกลายเป็นที่จัดแสดงศิลปะชั้นยอด” ( La gare est superbe et l’air d’un Palais des Beaux – Art…) เขากล่าวประโยคนี้ไว้ในปีคริสตศักราช 1900 และไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของเขาจะกลายเป็นเรื่องจริงในอีก 80 ปีต่อมา


14.mongmart ย่านดังมงมาร์ต (Montmartre) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหานครปารีส แต่กลับไม่มีความวุ่นวายดั่งเช่นในตัวเมืองปารีสที่ผู้คนต่างเร่งรีบไปให้ถึงจุดหมายของตนเอง ที่นี่ต่างกันตรงที่ผู้คนต่างใช้ชีวิตกันอย่างช้าๆ ไม่วุ่นวาย สมกับที่ย่านนี้ถูกขนานนามว่าเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของศิลปิน "The Rose House" ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของจิตรกรที่มีชื่อเสียงอย่าง Utrillo และในปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงและเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร และตามชื่อร้านว่าเป็น "บ้านกุหลาบ" กำแพงบ้านสีชมพูนั้นเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาถ่ายรูป และถ่ายทำ เอมีลี่อินปารีส มหาวิหารซาเครเกอร์ (The Basilica of the Sacré-Coeur) ในย่านมงมาร์ต ก็เปรียบเสมือนหอไอเฟล (Eiffel Tower) ที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของมหานครปารีส ตัวโบสถ์นั้นถูกสร้างขึ้นในสไตล์ไบเซนไทน์ (Byzantine-style) ที่บนจุดสูงสุดของกรุงปารีสที่เมื่อมองลงมาแล้ว จะสามารถมองเห็นวิวเมืองปารีสแบบพาโนราม่าเลยทีเดียว  และที่นี่คือสถานที่ถ่ายทำ จอนวิค chapter 4 เมื่อปี 1870 ประเทศฝรั่งเศสสามารถเอาชนะราชอาณาจักรปรัสเซียได้ และเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักรบ มหาวิหารแห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้น


 15.สวนสาธารณะ ที่ขึ้นชื่อ มีอยู่แทบทั่วเมืองปารีส เป็นที่พักผ่อน และอาบแดดนอนอ่านหนังสือ เพราะที่เมืองนี้ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว ที่แนะนำเลยคือ  Jardin Du Palais Royal สวนสาธารณะ ในซีรีย์ยอดนิยม ปารีส Emily in Paris สุดร่มรื่นที่มีน้ำพุขนาดใหญ่ อยู่กลางสวน เป็นสถานที่ที่ Emily พบกับ Mindy  เพื่อนของเธอ และถัดไปไม่ไกล  Palais Royal สถานที่ เที่ยว Emily in Paris เป็นจุดที่ Emily กับ Mindy มานั่งเล่น นั่งคุยกันที่มีเป็นแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยว เพราะจะมีจุดถ่ายรูปที่เป็นแท่งสีดำสลับขาว ที่ไล่ระดับความสูง ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปนั่งหรือยืน ถ่ายรูปก็ได้

ฝากความเห็น




x